วันอาทิตย์ที่ 1 – วันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2023
วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2023
กดเพื่อฟังบทภาวนา>> “การนมัสการพระเจ้าในยุคกลาง”
บทอ่านจากพระคัมภีร์ ยอห์น 4:19-24
.
ในประวัติศาสตร์ของคริสตจักรนั้น ยุคสมัยที่ถือได้ว่ามีช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดคือ ยุคกลาง ซึ่งถือเป็นยุคที่อยู่ตรงกลางระหว่างยุคที่เฟื่องฟูทางศิลปวัฒนธรรม 2 ยุค มีช่วงเวลาประมาณเกือบ 1,000 ปี (ค.ศ. 590 – 1517) ช่วงเวลานี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ยุคมืด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มืดบอดทางศิลปวัฒนธรรม ความคิดของผู้คนในช่วงเวลานั้นถูกจำกัดโดย คำสอนของศาสนจักรโรมันคาทอลิกซึ่งถือได้ว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของผู้คนในช่วงเวลาดังกล่าว การนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรก็เช่นกัน ก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากต่อการวางกฎเกณฑ์และหลักปฏิบัติต่างๆ ในการนมัสการในคริสตจักร ในระเบียบการนมัสการพระเจ้า หรือที่คริสตจักรโรมันคาทอลิกเรียกว่า มิสซา นั้น
ถึงแม้ช่วงต้นของยุคกลางผู้เชื่อทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรได้ แต่ต่อมาการนมัสการพระเจ้าถูกจำกัดให้คนเพียงบางกลุ่มที่จะสามารถมีส่วนร่วมในการนมัสการพระเจ้า เช่น การจำกัดการร้องเพลงในภาษาละติน และใช้ทำนองเพลงสวดที่ยากในการร้อง การอ่านพระคัมภีร์ในภาษาละติน การมีศาสนพิธีต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เป็นต้น การนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรช่วงยุคกลางจึงกลายเป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนาที่ดูเหมือนจะศักดิ์สิทธิ์ เน้นเพียงแค่เปลือกนอกของการนมัสการโดยลืมแก่นที่แท้จริงของการนมัสการพระเจ้า
ในพระธรรมยอห์น บทที่ 4 นี้หญิงชาวสะมาเรียได้ถามพระเยซูเกี่ยวกับการนมัสการว่าการนมัสการที่ถูกต้องควรเป็นเช่นไร เป็นที่น่าสังเกตว่าคำถามของหญิงชาวสะมาเรียนั้นเน้นไปที่เปลือกของการนมัสการ คือเรื่องของสถานที่ ว่าควรนมัสการที่ไหนจึงจะถูกต้อง แต่คำตอบของพระเยซูคริสต์นั้นกำลังบอกว่า สิ่งนั้นไม่ได้สำคัญที่สุดในการนมัสการพระเจ้า แต่แก่นแท้ของการนมัสการพระเจ้านั้นคือ การนมัสการด้วยจิตวิญญาณและด้วยความจริง การนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรและการนมัสการพระเจ้าด้วยชีวิตของเรานั้น กำลังเน้นไปที่สิ่งใด ที่เปลือกนอก หรือแก่นแท้ของการนมัสการ
คำถามสำหรับการใคร่ครวญ
- สิ่งต่างๆ ที่เราทำเพื่อนมัสการพระเจ้าทั้งในคริสตจักรและชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง สิ่งเหล่านั้นเราทำโดยเน้นที่เปลือกนอก หรือทำจากแรงผลักดันในแก่นแท้ของการนมัสการ
