( สัปดาห์ที่ 1 : นักโทษของพระเยซูคริสต์ )
วันพุธที่ 14 – วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2024
———————————————————————————————————————
กดเพื่อฟัง>> เสียงบทภาวนา “นักโทษของพระเยซูคริสต์”
ข้อพระคัมภีร์สำหรับการใคร่ครวญ
- วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2024 : สดุดี 56:1-13 : วางใจพระเจ้าเมื่อถูกกดขี่
- วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2024 : โยชูวา 3:1-17 : อิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดน
- วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 : กิจการ 11:19-30 : คริสตจักรที่เมืองอันทิโอก
- วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2024 : กิจการ 13:1-12 : อัครทูตประกาศข่าวประเสริฐที่เกาะไซปรัส
- วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2024 : กิจการ 6:8-15 : สเทเฟนถูกจับกุม
พ่อครูหลวง ศาสนาจารย์ดาเนียล แมคกิลวารี ได้เขียนเป็นพยานถึงความรักของพระเจ้า ผ่านผู้นำคริสตจักรชื่อน้อยสิริ เหตุเกิดขึ้นประมาณปี 1889
ไว้ว่า “เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้แทนของครอบครัวผู้ที่สนใจเรื่องพระเจ้า จากอำเภอเชียงดาวได้มาหาพวกเรา ขอร้องให้เราส่งครูสอนชาวพื้นเมืองสักคนหนึ่งไปสอนพวกเขา
ครูหนานตาจึงเดินทางขึ้นไปเชียงดาว คนกลุ่มนี้จึงมีความเชื่อในพระเจ้า แต่ว่ายังควรที่จะต้องศึกษาต่อให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เราจึงเลือกน้อยสิริ ซึ่งเป็นผู้ปกครองคริสตจักร
ที่ดี ที่น่านับถือที่สุดของคริสตจักรเรา เพื่อทำงานนี้ เราได้กำชับเขา ให้ระมัดระวังตัวให้มาก เพราะเป็นที่ซึ่งใหม่ในงานของเรา การสอนต้องระวัง
เพื่อมิให้มีเหตุที่ใครจะนำไปกล่าวหาหรือไม่พอใจ ทั้งต่อผู้ปกครองถิ่นนั้นและคนทั่วไปด้วย น้อยสิริสอนที่นั่นราวหนึ่งเดือน จึงถูกเรียกตัวกลับเพราะความเจ็บป่วยของภรรยา
เขากลับมาได้แวะที่สถานีมิชชั่นของเราเพื่อรายงานความก้าวหน้า เรื่องความประพฤติและความขยันขันแข็งของเหล่าคริสตชนผู้เชื่อใหม่
เราต้องแปลกใจอย่างมาก ที่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ได้ข่าวว่าน้อยสิริถูกจับตัวไปล่ามโซ่และขังคุก ด้วยข้อหาว่าทรยศต่อรัฐบาล เราทั้งสาม มีข้าพเจ้า มิสเตอร์คอลลินซ์
มิสเตอร์ดอดด์ จึงได้ไปขอพบท่านผู้ว่าราชการมณฑลผู้นี้ ถามถึงสาเหตุที่จับตัวน้อยสิริ ซึ่งท่านตอบว่า “ได้เป็นผู้สั่งให้จับตัวไป ด้วยข้อหาร้ายแรง ว่าไม่จงรักภักดี
เพราะได้สอนพวกผู้เชื่อพระเจ้าเหล่านั้นว่า ไม่ต้องทำงานให้รัฐบาล(สมัยก่อนประชาชนทั่วไป = ไพร่ – มีหน้าที่ทำงานให้รัฐตามกำหนด) การสอนเช่นนี้เป็นการทรยศต่อชาติ
ซึ่งถ้าไต่สวนว่าผิดจริงจะต้องถูกโทษประหาร ดังนั้นข้อหานี้จึงไม่อาจประกันตัวได้
นักโทษถูกนำตัวมายังศาลและสอบสวน ตามประเพณีของสยาม การไต่สวนจะต้องจดบันทึกคำไว้หมด
“เอ็งคือน้อยสิริ ที่ได้ไปสอนที่เชียงดาวใช่หรือไม่?”
“ใช่”
“ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่จะสอน”
“เมื่อวันที่สี่ แรมสามค่ำ”
“ได้สอนหรือไม่ว่า คริสตชนได้รับยกเว้นไม่ต้องทำงานให้รัฐบาล?”
“ไม่ได้สอนดังนั้น ตรงกันข้าม ข้าสอนว่า เราเป็นข้าของเมืองสยาม คริสตชนต้องเสียภาษีและทำหน้าที่ของข้า ให้ครบทุกอย่าง”
จากนั้น ก็เป็นคำให้การของผู้ว่าราชการ(เจ้าครอง)เมืองเชียงดาว ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา(โจทก์) ซึ่งถามต่อหน้าผู้ถูกจับ(จำเลย) หนึ่งในคำถามก็คือ
“ผู้กล่าวหาจะบอกชัดลงไป ถึงเวลาและสถานที่ ซึ่งพวกคริสตชนถูกเรียกตัวให้ไปทำงานให้รัฐบาลแล้วพวกเขาไม่ได้มา ได้หรือไม่?”
“ได้ เวลานั้นข้าได้เรียกตัว ชายหนึ่งหรือสองคน แต่พวกเขาไม่ได้มา”
“ได้เรียกตัวเมื่อใด?”
“เมื่อวันที่สี่ ขึ้นสามค่ำ”
แปดเดือนต่อมา เมื่อมิสเตอร์ดอดด์ลงไปยังบางกอก เพื่อสมรสกับมิสเอคิน เขาได้ยื่นอุทธรณ์ผ่านท่านกงสุลสหรัฐฯ ถึงพระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าพระองค์หนึ่ง
ผู้เป็นเสนาบดีมณฑลทางเหนือ(พายัพ) ซึ่งท่านทรงสัญญาจะปล่อยตัวน้อยสิริทันที ทันทีที่พวกเราได้รับคำตอบที่แน่ใจได้ เราได้ไปยังผู้แทนพระองค์ในเชียงใหม่ คือ
พระบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าโสณพันดิตถ์ ซึ่งพระองค์ทรงสัญญาจะออกคำสั่งปล่อยตัวทันที วันต่อมาเราเข้าพบท่านข้าหลวงเพื่อแจ้งให้ทราบถึงผลดังกล่าว
แต่ท่านและผู้พิพากษาเพิ่งออกไปเดินเล่นในเมือง วันนั้นเป็นบ่ายวันเสาร์ วันต่อมาเป็นวันที่พวกเราจะมีพิธีศีลมหาสนิท ซึ่งข้าพเจ้าตั้งใจแล้วว่าน้อยสิริควรจะถูกปล่อยตัว
ออกมาอยู่กับเราในวันที่ว่านี้ และเพื่อให้เป็นไปตามความตั้งใจ ข้าพเจ้าออกติดตามคนทั้งสองทันที คนเดินเร็วอย่างข้าพเจ้า เมื่อจำเป็นก็วิ่งด้วยได้ ข้าพเจ้าวิ่งติดตามเขาไป
ช่างเป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของเมืองสองคน ปิดที่ทำงานหนี เพียงเพื่อจะได้ขังเหยื่อของตนไว้ ล่ามโซ่เล่นอีกสักคืน ข้าพเจ้าพบคนทั้งสองกลางถนน!
ผู้พิพากษาบอกว่า เขาได้รับพระบัญชาจากพระองค์ท่านแล้ว และพรุ่งนี้เช้าจะปล่อยตัว แต่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องมา แต่ข้าพเจ้าทราบดีว่า
ข้าพเจ้าจะไม่ได้เห็นหน้าน้อยสิริทันเวลานมัสการพระเจ้า นอกจากจะต้องไปด้วยตนเอง
ดังนั้น เช้าวันอาทิตย์ ข้าพเจ้าไปหาผู้พิพากษาคนนั้นอีก ผู้ซึ่งบอกข้าพเจ้าอีกว่า ไม่ต้องคอย แต่ข้าพเจ้าบอกเขาว่า ข้าพเจ้าจะไม่กลับจนกว่าน้อยสิริจะถูกปล่อยตัวออกมา
ให้เห็นกับตา แล้วเขาก็เอาตัวนักโทษออกมา ข้าพเจ้ายืนดูเขาเอาตรวนออกจากข้อเท้าของน้อยสิริ ระฆังช่วงที่สองกำลังดังขึ้น เมื่อข้าพเจ้าไปถึง และน้อยสิริก็ไปกับข้าพเจ้า
คนในที่ประชุมยืนขึ้น และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่มีดวงตาที่ปราศจากน้ำสักกี่คู่หรอกในห้องนั้น มิสเตอร์ดอดด์ เทศนาจากข้อพระคัมภีร์ที่ว่า
“และเราทั้งหลายทราบว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นผลดีต่อทุกคนที่รักพระเจ้า”
พยานรักเพื่อพระคริสต์ผ่านชีวิตของผู้ปกครองคริสตจักร น้อยสิริ จากหนังสือทูตของพระคริสต์ กึ่งศตวรรษในหมู่ชนชาวสยามและลาว ศาสนาจารย์ดาเนียล แมคกิลวารี
หัวข้ออธิษฐาน
- ผู้ปกครอง มัคนายก กรรมการแผนกต่างๆ ที่ทำงานรับใช้ในคริสตจักร ได้รับการเสริมเรี่ยวแรงกำลังมาจากพระเจ้า
- มิชชันนารีที่ทำงานอยู่ทั่วโลก ที่เผชิญกับการกดขี่ข่มเหงในลักษณะต่างๆ ขอพระเจ้าช่วยให้พ้นจากพยันตรายต่างๆ